ในยุคสมัยที่การปรับรูปคางให้ได้รูปเรียวยาวสวยงาม ไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปเพราะมีตัวเลือกใหม่ที่ทั้งสะดวก ปลอดภัย และสามารถออกแบบผลลัพธ์ได้ตามความต้องการ อย่างการฉีด “ฟิลเลอร์คาง” ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางเบี้ยว หรือใบหน้าดูไม่สมส่วนให้ดูดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน บทความนี้จาก Wandee Clinic จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับหัตถการฟิลเลอร์คางให้ครบทุกแง่มุม ฟิลเลอร์คางเจ็บไหม? มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง? พร้อมเคล็ดลับเตรียมตัวและดูแลหลังทำอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดูดี และอยู่ได้อย่างยาวนาน

สอบถามได้ 24 ชั่วโมง
วันดี คลินิก เปิดทำการ 11.00-20.00 น.
Tel : 097-935-5556
FB : Wandeeclinic IG: Wandeeclinic

ฟิลเลอร์คาง คืออะไร
ฟิลเลอร์คาง คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid: HA) ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสารธรรมชาติที่พบในร่างกาย เข้าไปยังชั้นผิวบริเวณคาง เพื่อเสริมความยาว ปรับรูปทรงคางให้ได้สมดุลกับใบหน้า แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางเบี้ยวไม่ได้รูป ให้ดูดีขึ้นอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เกิดรอยแผล และสามารถสลายออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไร
- ช่วยเพิ่มความยาวให้คาง แก้ปัญหาคางตัด คางสั้น ปรับสมดุลใบหน้าให้เรียวสวยได้รูป
- เติมเต็มริ้วรอย ร่องบุ๋มที่คางให้ดูเต็ม แก้ปัญหาคางไม่ได้สมดุล คางแบน ดูขาดมิติ
- แก้ไขปัญหาคางเบี้ยว คางไม่สมมาตร ปรับคางให้มีสมดุลที่สวยงามขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยปรับใบหน้าดูเรียวสวย ได้ทรง V-shape อย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์คางจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากปรับรูปหน้าด้วยวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้
- ผู้ที่มีคางสั้น คางตัดหรือคางถอย ส่งผลให้ใบหน้าดูกลมหรือดูไม่มีมิติ
- ผู้ที่มีคางบุ๋ม ร่องคางลึก จากโครงสร้างใบหน้าตั้งแต่กำเนิด
- ผู้ที่มีคางเบี้ยว คางไม่สมมาตร และต้องการปรับรูปทรงคางให้ดูสมส่วน
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหรือร่องใต้คาง
- ผู้ที่อยากปรับรูปหน้าให้ละมุนและได้สัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น


ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของทรงคาง คางสวยได้รูป ปรับสมดุลให้ใบหน้าได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้แผลหายหรือใช้เวลาพักฟื้นเหมือนการผ่าตัดศัลยกรรม
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังทำ เหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกหยุดงานหรือไม่มีเวลาพักฟื้น
- เจ็บน้อย และใช้เวลาไม่นาน ฟิลเลอร์รุ่นใหม่ๆ มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับการใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) เพื่อช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บในขณะฉีด โดยใช้เวลาฉีดฟิลเลอร์คางเพียง 15-30 นาที ตามปัญหาของแต่ละเคส
- สามารถประเมินและออกแบบทรงคางได้แบบเฉพาะบุคคล โดยแพทย์สามารถกำหนดจุดที่ต้องเติมฟิลเลอร์ได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้รับกับรูปหน้า และตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด
- ไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปอย่างถาวร ฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (HA) จะค่อยๆ สลายตัวไปตามระยะเวลา และสามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เมื่อจำเป็น จึงไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปอย่างถาวร
ข้อเสียของฟิลเลอร์คาง
- ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร ฟิลเลอร์คางให้ผลลัพธ์แบบชั่วคราว โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ พฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลหลังทำ และต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
- เสี่ยงต่อการเกิดก้อนแข็ง คางผิดรูป หากผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน การฉีดฟิลเลอร์คางต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะด้าน แพทย์จะต้องประเมินสัดส่วนใบหน้าโดยรวม และกำหนดตำแหน่งการฉีดอย่างแม่นยำ เพื่อให้คางรับกับองค์ประกอบอื่นบนใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ หากฉีดโดยผู้ที่ขาดทักษะหรือประสบการณ์ อาจเสี่ยงทำให้คางเบี้ยว คางยาวเกินไป หรือเกิดก้อนแข็งที่ดูผิดรูปได้
การฉีดฟิลเลอร์คางอาจไม่เหมาะสำหรับบางกลุ่ม เช่น หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหยุดยาก ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้สาร HA และผู้ที่มีปัญหารูปคางที่รุนแรง เช่น คางสั้น คางตัดมากๆ คางผิดรูปแต่กำเนิดหรือจากอุบัติเหตุซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์

สอบถามได้ 24 ชั่วโมง
วันดี คลินิก เปิดทำการ 11.00-20.00 น.
Tel : 097-935-5556
FB : Wandeeclinic IG: Wandeeclinic

ฟิลเลอร์คาง ใช้กี่ cc ราคาเท่าไหร่
โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์คางจะใช้ประมาณ 1-2 cc ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหา เช่น คางสั้น คางตัด คางบุ๋ม หรือคางเบี้ยวผิดรูป โดยแพทย์จะประเมินปริมาณที่เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล หากต้องการปรับทรงเพียงเล็กน้อยอาจใช้แค่เพียง 1 cc แต่หากมีปัญหามากหรือต้องการรูปทรงที่ชัดเจน อาจใช้มากถึง 2 cc
ส่วนราคาฟิลเลอร์คางขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยฟิลเลอร์เกาหลี เช่น Yvoire Neuramis หรือ e.p.t.q อยู่ที่ 6,000-8,000 บาทต่อ 1 cc อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขณะที่ฟิลเลอร์ยุโรป เช่น Restylane Juvederm หรือ Belotero ราคา 9,000-15,000 บาทต่อ 1 cc อยู่ได้นาน 12-24 เดือน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนเลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการเฉพาะบุคคล
ฟิลเลอร์คาง เจ็บไหม?
โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์คางอาจรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ หากผู้เข้ารับบริการรู้สึกกังวลเรื่องความเจ็บ สามารถขอแปะยาชาก่อนทำประมาณ 30-45 นาที นอกจากนี้ฟิลเลอร์รุ่นใหม่ๆ ยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) อยู่ในเนื้อฟิลเลอร์ ซึ่งช่วยบรรเทาอาการเจ็บในระหว่างฉีดได้ดี
ฟิลเลอร์คาง กี่วันเข้าที่ บวมกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 70-80% และเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 7-14 วัน โดยในช่วงแรกอาจมีอาการบวม รอยแดง หรือรู้สึกตึงบริเวณคางได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์และมักดีขึ้นเองภายใน 3-7 วัน ทั้งนี้ควรดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
- งดยาและอาหารเสริม ที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินอี น้ำมันปลา โสม หรือสารสกัดจากสมุนไพรฤทธิ์ร้อน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อป้องกันรอยช้ำหรือเลือดออกง่ายบริเวณที่ฉีด
- งดแอลกอฮอล์ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวและช้ำง่ายขึ้น
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวดีและลดความเสี่ยงของอาการบวมช้ำ
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ รวมถึงประวัติการแพ้ยาและสารต่างๆ เพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
- งดแต่งหน้าบริเวณคางในวันที่เข้ารับบริการ เพื่อให้ผิวสะอาด ลดโอกาสการอักเสบ ติดเชื้อ ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินรูปทรงและวางแผนการฉีดได้ชัดเจน
- หากมีรอยแผล ผื่น หรือเกิดการอักเสบที่คาง ควรเลื่อนนัดออกไปก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- ห้ามนวด กด หรือจับแรงๆ บริเวณที่ฉีดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากตำแหน่ง
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์โดนกดทับ หรือฟิลเลอร์ผิดรูปจากแรงกด
- งดออกกำลังกายหนัก วิ่ง หรือกระโดด อย่างน้อย 5-7 วัน เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ และป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อน
- งดเข้าซาวน่า อบไอน้ำ ออนเซ็น สตรีม หรือหัตถการที่ต้องใช้ความร้อน ที่บริเวณใบหน้าในช่วง 5-7 วัน เพราะความร้อนอาจกระตุ้นการระคายเคือง อักเสบ ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าและสลายตัวเร็วกว่าปกติ
- งดแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ 1-3 วัน เพื่อลดอาการอักเสบ บวม แดง และช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น
- งดการทำทรีตเมนต์ นวดหน้า หรือขัดผิวบริเวณใบหน้าในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์คางเคลื่อนจากตำแหน่ง และลดความเสี่ยงการอักเสบ ติดเชื้อ
- หากมีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกเจ็บ สามารถประคบเย็นตามคำแนะนำแพทย์ใน 24 ชั่วโมงแรก และหมั่นสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ โดยควรดื่มน้ำให้ได้ 1.5-2 ลิตร/วัน เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมาก ปวดรุนแรง ผิวซีด มีจุดม่วงคล้ำ หรือมีหนองไหล ควรพบแพทย์เจ้าของเคสทันที

สรุป
ฟิลเลอร์คางเป็นวิธีปรับสัดส่วนคางให้สวยงามได้รูปที่มีความปลอดภัย เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม และต้องการปรับรูปหน้าให้ละมุนมากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์คางให้ผลลัพธ์กึ่งถาวร โดยอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อความต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังต้องอาศัยทักษะประสบการณ์ของแพทย์ผู้ดำเนินการ ใช้ฟิลเลอร์แท้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัย สนใจฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้า สามารถประเมินรูปหน้ากับแพทย์ได้ที่ Wandee Clinic ทุกสาขา หรือแอดไลน์ @Wandeeclinic เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
สอบถามได้ 24 ชั่วโมง
วันดี คลินิก เปิดทำการ 11.00-20.00 น.
Tel : 097-935-5556
FB : Wandeeclinic IG: Wandeeclinic
